7 วิธีออมเงินง่าย ๆ ใช้เก่งยังไงก็เก็บเงินอยู่
465 จำนวนผู้เข้าชม |
เคล็ดลับการออมเงินฉบับมนุษย์เงินเดือน
สำหรับชาวมนุษย์เงินเดือน เป้าหมายหลักๆ ก็มีเงินเก็บแบบปังๆ ได้ หากรู้จักวางแผนการออมตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อนำไปสู่ชีวิตที่มั่นคงและสุขสบายในวัยเกษียณ โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลาน หรือต้องทำงานหนักในช่วงที่สังขารร่วงโรย ใครอยากจะเริ่มออมเงินแต่ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร วันนี้เราจะมาแชร์วิธีออมเงินง่ายๆ สไตล์มนุษย์เงินเดือน
7 วิธีออมเงินง่าย ๆ ใช้เก่งยังไงก็เก็บเงินอยู่!
สิ่งที่ยากที่สุดของมนุษย์เงินเดือนก็คงหนีไม่พ้นวิธีการเก็บออมเงินที่จะต้องจัดสรรให้เงินพอที่จะใช้ได้ทุกเดือน บางคนอาจเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับบางคนก็เหมือนจะเป็นเรื่องยากพอตัวเลยทีเดียวเลยหละ เพราะค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนค่อนข้างเยอะและอาจยังไม่นิ่ง หรือบางคนไม่รู้วิธีเก็บเงินที่ถูกต้องหรือ และที่หนักสุดก็คือ มีพฤติกรรมการใช้เงินเก่ง ใช้เพลินจนไม่เหลือ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับง่าย ๆ เพื่อการออมเงินแบบไหนที่จะเอาอยู่มาฝากจะมีอะไรบ้างเรามาดูพร้อมกัน
ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงินให้ชัดเจน
ก่อนที่จะเริ่มวิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน อย่างแรกเลยที่ต้องมี คือ เป้าหมาย ว่าทำไมคุณถึงอยากมีเงินเก็บ ซึ่งเป้าหมายนี้แหละที่จะแรงจูงใจที่ทำให้อยากเก็บเงินมากยิ่งขึ้น ซึ่งบางคนก็มีความฝันที่จะเก็บเงินล้านหรือถ้าหากว่าคุณยังไม่รู้ว่าเป้าหมายในการออมเงินของคุณคืออะไรให้ลองเริ่มจากความชอบ เช่น ชอบเดินทางหรือไปเที่ยวต่างประเทศ ชอบไปคอนเสิร์ตหรืองานดนตรี โดยเป้าหมายที่มาพร้อมกับความชอบเล็กๆ เหล่านี้ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและสามารถนำไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นได้ในอนาคตออมก่อนใช้ ได้เปรียบกว่าเห็นๆ
วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราออมเงินได้ทันที คือ เมื่อไหร่ที่เงินเดือนเข้าบัญชี ก็หักเงินเป็นเงินออมซะเลย ทำแบบนี้จะช่วยให้เรามีเงินออมอย่างสม่ำเสมอ แถมยังช่วยสร้างวินัยการออมเงินให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งจะออมเท่าไหร่นั้นก็แล้วแต่ความสามารถของแต่ละคน อาจเริ่มต้นจากออม 10 % ของเงินเดือนก่อน เช่น เงินเดือน 12,000 บาท หักเป็นเงินออม 1,000-1,200 บาท โดยใช้วิธีฝากเข้าบัญชีออมทรัพย์ไว้ยามฉุกเฉิน หรือจะหักเป็นเงินลงทุนในกองทุนรวมก็ได้เช่นกัน และเมื่อมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ก็เพิ่มจำนวน % การออมให้มากขึ้นตามไปด้วยเปิดบัญชีฝากประจำ
วิธีต่อมาเป็นการเลือกที่จะเปิดบัญชีเงินฝากประจำ ซึ่งเป็นการควบคุมการใช้เงินที่ดีวิธีหนึ่ง เพราะเงินจำนวนนี้จะไม่สามารถถอนออกก่อนกำหนดเวลาได้ ใครที่เป็นคนเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ แนะนำให้ลองออมเงินด้วยวิธีนี้ดู ทั้งได้เงินออม ได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ย แถมยังได้ฝึกวินัยในตนเองเพิ่มอีกด้วยหักบัญชีอัตโนมัติ
อีกหนึ่งวิธีที่หลายคนเลือกก็คือการตั้งหักบัญชีอัตโนมัติถือเป็นตัวช่วยด้านวินัยอย่างหนึ่ง ให้เราสามารถชำระค่าบริการต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและตรงต่อเวลา อย่าง ค่าผ่อนบ้าน ค่าโทรศัพท์ และค่างวดที่ฝากประจำต่างๆ ซึ่งการที่เราสามารถชำระค่าบริการต่างๆ ได้ตรงเวลา นอกจากจะไม่โดนเรียกเก็บค่าธรรมเนียมชำระล่าช้าแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างเครดิตและความน่าเชื่อถือให้กับตัวเราเองอีกด้วยมีเศษเหรียญ ให้หยอดกระปุก
เริ่มจากการสร้างแรงบันดาลใจด้วยการหากระปุกออมสินน่ารักๆ แล้วหมั่นสำรวจกระเป๋าสตางค์ของเราว่า มีเศษเหรียญอยู่บ้างไหม ถ้ามีก็อย่ารีรอ รีบหยอดกระปุกกุ๊กกิ๊กของเราให้เต็มเร็วๆ กันดีกว่า เผลอๆ ได้มาอีกหลายร้อยโดยไม่รู้ตัวนะ!แบงก์ 50 เป็นของต้องห้าม
ในชีวิตประจำวันของเรานั้นแบงค์ 50 ค่อนข้างจะหยิบใช้น้อยกว่าจำนวนแบงก์อื่นๆ ดังนั้นถ้าไม่หยิบมาใช้ ก็ไม่น่าจะกระทบกับชีวิตประจำวันของเรามากนัก ดังนั้น จึงน่าจะเป็นตัวช่วยในการออมเงินได้ หากเราลองสะกดจิตตัวเองว่า เจ้าแบงก์สีฟ้านี้เป็นของต้องห้าม และ “ต้องห้ามนำออกมาใช้เด็ดขาด” และเมื่อมีหลายๆ ใบเข้า มารู้ตัวอีกที เก็บได้เกือบ 1,000 บาทก็มีนะใช้ไปเท่าไหร่ ออมคืนเท่านั้น
ข้อนี้เป็นการปรับนิสัยการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของตัวเองให้เราจงคิดว่า ก็เหมือนกับการ “ยืมเงินตัวเองออกมาใช้ก่อน” แล้วคืนให้ทีหลัง เอาไปใช้เท่าไรจดไว้ แล้วหามาจ่ายคืนทีหลังด้วยนะ แม้จะเป็นเงินตัวเอง ก็ห้ามอ่อนข้อ ทำให้เหมือนเราติดหนี้เพื่อน ต้องรีบใช้คืน อย่าผัดวันประกันพรุ่งเด็ดขาด
สรุป
จะเห็นได้ว่าการออมเงินเป็นเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะถึงแม้จะตั้งเป้าหมายทางการเงินไว้อย่างชัดเจน แต่ไม่ลงมือทำให้ถูกวิธี หนทางสู่เป้าหมายก็อาจยิ่งไกลออกไปเรื่อย ๆ หรือหากเกิดเหตุฉุกเฉินต้องใช้เงินกะทันหัน เงินส่วนนี้เป็นเหมือนคลังเงินสำรองที่พร้อมช่วยให้รอดจากทุกปัญหาได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องหยิบยืมเงินจากคนอื่นให้เสียดอกเบี้ย ซึ่งจาก 7 วิธีออมเงินมนุษย์เงินเดือน ที่นำมาฝากกันนั้น ก็อาจเลือกใช้ทั้งหมดหรือเลือกใช้เฉพาะบางวิธีก็ได้ แต่ก่อนที่จะทำก็ต้องเข้าใจถึงหัวใจหลักก่อนว่า ไม่ว่าจะเลือกใช้วิธีไหน การเก็บเงินก็คือการลดรายจ่าย และมีเงินออมไว้เพื่ออนาคตรวมถึงเหตุจำเป็น เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เป้าหมายที่ตั้งใจอยู่ใกล้ขึ้น
