สัญญาณเตือน เมื่อเรากำลังเงินช็อตต้องกู้สินเชื่อ

   พูดถึงเรื่องการเงิน ไม่ว่าใครก็คงมีความตั้งใจว่าอยากจะมีเงินใช้ อยากซื้ออะไรที่ชอบก็ได้ แต่ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นในทุก ๆ ปี อย่างเช่น ค่าไฟ ค่าน้ำมัน หรือข้าวของเครื่องใช้ แต่รายรับที่ได้บางคนก็เท่าเดิม ซ้ำร้ายสำหรับบางคนรายได้ก็น้อยลงจากสภาพเศรษฐกิจ ทำให้การใช้ชีวิตในสังคมเป็นไปได้อย่างลำบาก เรื่องค่าครองชีพ หรือรายจ่ายที่เกิดขึ้นบางครั้งเราแทบจะไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำ กว่าจะรู้ตัวอีกที เราก็ไม่สามารถจ่ายหนี้ หรือใช้จ่ายได้เหมือนเมื่อก่อน ทางออกที่จะช่วยเราได้นั่นคือ กู้สินเชื่อออนไลน์ หรือกู้สินเชื่อจากสถาบันการเงินต่าง ๆ 

   ซึ่งสินเชื่อที่เปิดกว้างสำหรับการนำเงินก้อนนี้ไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ตามความต้องการของเรา และสถานการณ์แบบไหนบ้างที่การขอสินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคลจะสามารถช่วยเหลือเราได้ และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเวลานี้เรากำลังเงินช็อต ต้องกู้สินเชื่อสินเชื่อออนไลน์ 

5 สัญญานเตือน ว่าเรากำลังเกิดอาการเงินช็อต จนจำเป็นต้องกู้สินเชื่อออนไลน์ 

   วิธีสังเกตว่าเรากำลังเกิดอาการช็อต หรือว่าอาการชักหน้าไม่ถึงหลังนั้นสังเกตได้จากพฤติกรรมทางการเงินที่ต้องยื่นกู้สินเชื่อออนไลน์ ดังต่อไปนี้

1. ใช้เงินเดือนชนเดือน

      ผ่านต้นเดือนมาไม่กี่วัน ไม่รู้ว่าเงินเดือนของเราสูญสลายหายไปไหนหมด จากใบแบงค์พันที่จ่ายสนุกมือช่วงก่อนหน้านี้ มันเหลือแค่เศษเหรียญกลิ้งไปมาที่ก้นกระเป๋า รู้ชะตากรรมเลยว่าอีกครึ่งเดือนที่เหลือจะต้องอาศัย อาหารญี่ปุ่นอย่างบะหมีกึ่งสำเร็จรูปประทังชีวิตแน่ ๆ

2. ไม่มีเงินสำรอง

      ไม่ได้มีการวางแผนการใช้เงินที่รอบคอบ และอาจไม่เคยแบ่งเงินบางส่วนเก็บออมไว้เลย ถ้าวันหนึ่งเราจำเป็นจะต้องใช้เงินเร่งด่วน เช่น บริษัทเลิกกิจการทำให้เราตกงาน รถเสียต้องซ่อม ลูกป่วยต้องจ่ายเงินค่ารักษา ฯลฯ ถ้าไม่มีเงินออม ก็ไม่พ้นการกู้ยืมเงินอย่างแน่นอน อย่าโทษเวรกรรมที่ทำให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นพร้อมกัน แต่ควรโทษตัวเองที่ไม่เคยเตรียมความพร้อมมากกว่านะจ๊ะ
   

3. เริ่มหยิบยืมคนใกล้ตัว

      เมื่อไม่มีเงินออมแต่จำเป็นจะต้องใช้เงินเร่งด่วน หนทางแรกๆ ที่หลายคนเลือกใช้ คือ ยืมเงินจากคนใกล้ตัว (เหยื่อของเรา คือ ญาติ เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน) มันเป็นวิธีที่ต้องใช้เครดิตความเชื่อมั่นส่วนตัว และความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นเดิมพัน ถ้ายืมแล้วคืนครบทุกบาททุกสตางค์ มันก็จบแบบแฮปปี้ แต่มันจะกลายเป็นโศกนาฎกรรมไปทันที ถ้ายืมแล้วหายเข้ากลีบเมฆ ไม่คืนเลย แบบนี้มีเคืองจนถึงขั้นเลิกคบกันได้ทันที

4. ใช้บัตรกดเงินสด

      บางครั้งเรามืดแปดด้านหันไปทางไหนก็ไม่มีใครให้ยืมเงินเลย โอ้ชีวิต!! ทำไมถึงได้โหดร้ายกับเราแบบนี้ ระหว่างที่เดินคิดวิธีหาทางออกอยู่พักใหญ่ ก็ได้ยินเสียงโฆษณาบัตรกดเงินสดดังแว่วเข้ามา คิดว่านี่แหละทางออกของเรา แต่ว่า!! ถ้าเราจัดการหนี้ไม่ได้ ทางออกด้วยการใช้บัตรกดเงินสดนี้ก็อาจจะพาเราไปสู่เส้นทางใหม่ ที่หายนะกว่าเดิมกับวงจรหนี้สินก้อนโตก็ได้ เพราะบัตรกดเงินสดจะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่เรากดเงินสดออกมาใช้ (คิดดอกเบี้ยร้อยละ 28 ต่อปี) ดังนั้น กดเงินสดออกมาแล้วจะต้องรีบคืนหนี้ให้เร็วที่สุด ไม่งั้นดอกเบี้ยจ่ายเบ่งบานกลายเป็นภาระหนักขึ้นไปอีก

5. ใช้วงเงินบัตรเครดิตเต็มทุกใบ

      แม้ว่าเราอาจจะเปิดบัตรเครดิตแบบไม่ตั้งใจ คิดว่ามีติดกระเป๋าไว้เผื่อมีเหตุจำเป็นต้องใช้ แล้วกฎของแรงดึงดูดก็ทำงาน หลังจากนั้นชีวิตของเราก็จะมีแต่เรื่องที่คิดว่าจำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตตลอดเวลา เมื่อบัตรใบแรกใช้เต็มวงเงินแล้วก็ยังไม่พอ ก็จะต้องสมัครบัตรเครดิตใบต่อไปตามมาเรื่อย ๆ จากที่เคยจ่ายเต็มตลอด จนกระทั่งจ่ายขั้นต่ำไม่ไหว กดเงินจากบัตรใบใหม่มาจ่ายหนี้บัตรใบเก่า พอถึงจุดนี้เราก็เข้าสู่วงการลูกหนี้บัตรเครดิตไปอย่างสมบูรณ์แบบ
   
   

   ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าการเงินของเราป่วยหรือไม่ ปัจจุบันนี้มี กู้สินเชื่อให้เราเลือกสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลกู้สินเชื่อออนไลน์ หรือ กู้เงินผ่านธนาคารเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละที่ก็จะมีเงื่อนไข และคุณสมบัติต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสินเชื่อวงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการกู้เงิน รวมถึงยังครอบคลุมผู้กู้หลากหลายอาชีพ ทั้งพนักงานประจำ และผู้ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า หรือผู้ประกอบการนี่เป็นเพียงสถานการณ์ตัวอย่าง ในชีวิตของพวกเรายังมีอีกหลายเรื่องที่เราจำเป็นต้องใช้เงินด่วน หรือเงินก้อนใหญ่ ๆ สำหรับบางคนที่วางแผนการเงิน มีเงินเก็บออม ก็คงไม่กระทบมาก แต่ถ้าเราไม่เคยมีเงินเก็บออมไว้ในบัญชีเลย การขอสินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคลก็เป็นทางเลือกที่ดีและจะปลอดภัยมากขึ้นถ้าเราขอกับสถาบันการเงินในระบบ จึงหายห่วงเรื่องดอกเบี้ยแพงไปได้เลย