ทำไมถึงกู้สินเชื่อส่วนบุคคลได้มากกว่าเงินเดือน
542 จำนวนผู้เข้าชม |
สำหรับคนที่หลังจากทำงานได้สักพักแล้ว ก็อาจมีโครงการที่จะซื้อ บ้าน หรือ รถยนต์ การขอกู้สินเชื่อ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เกิดขึ้นในหัว แต่เมื่อทำการขอกู้สินเชื่อไปแล้วกลับพบว่า แต่ละสถาบันการเงิน อนุมัติวงเงินกู้เงินที่ไม่เท่ากัน และในบางครั้งเมื่อไปเปรียบเทียบกับเพื่อนที่เงินเดือนเท่ากัน สถาบันการเงินเดียวกัน ก็ได้วงเงินไม่เท่ากันอีก เราเชื่อว่าจะต้องมีคนคิดและเกิดคำถามขึ้นมาแน่นอน และวันนี้เราก็จะมาพาคุณ ๆ มาหาคำตอบพร้อม ๆ กัน
ปกติแล้ว เวลาที่เราอยากจะไปขอกู้เงิน/กู้สินเชื่อ เราก็จะเดินไปที่ธนาคารแล้วยื่นเอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อซึ่งโดยทั่วไปธนาคารหรือสถาบันการเงินที่จะปล่อยให้เรากู้เงิน มักจะขอเอกสารเพียงไม่กี่อย่าง เช่น สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือน และสำเนาเดินบัญชียอด เพราะปกติแล้ว เวลาธนาคาร หรือ สถาบันการเงินต้องการจะปล่อยเงินกู้ให้กับเราซึ่งเป็นผู้ที่ต้องการกู้เงิน ธนาคารจะมีความกังวลอยู่เพียงแค่อย่างเดียว คือ เรื่องของความเสี่ยงในการปล่อยกู้ในครั้งนี้ว่าจะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ เงินด่วน, สินเชื่อส่วนบุคคลหรือไม่
วงเงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลประเมินจากอะไร
ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติการกู้สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคาร หรือสถาบันการเงินจะพิจารณาวงเงินขอกู้สินเชื่อของคุณ หรือเอาไปประกอบเงินกู้ที่จะปล่อยสินเชื่อในครั้งนี้ โดยมักจะประเมินจากเงินเดือนของคุณ ว่าคุณได้เงินเดือนเฉลี่ยเท่าไหร่ หรืออาจจะพิจารณาจากโบนัสปลายปีที่คุณมักจะได้รับด้วยเช่นกัน เพราะถ้าธนาคารเห็นว่าบริษัทของคุณจ่ายเงินเดือนอย่างสม่ำเสมอ และเพิ่มขึ้นทุกปี ธนาคารก็จะปล่อยวงเงินกู้สินเชื่อให้คุณได้มากขึ้น โดยสิ่งที่ธนาคารจะทำการประเมินความเสี่ยงประกอบด้วย
อัตราหนี้ต่อรายได้
การคำนวณโดยดูจากรายได้สุทธิของผู้ขอกู้สินเชื่อ และหนี้สินที่มีอยู่ หากอัตราหนี้ต่ำ แสดงว่าผู้ขอกู้สินเชื่อมีความสามารถในการชำระหนี้สูง ทำให้สามารถกู้ได้ในวงเงินที่สูงขึ้นเครดิตบูโร
เครดิตบูโรจะเป็นเหมือนหนังสือรายงานความประพฤติและประวัติการชำระหนี้ของผู้ขอกู้สินเชื่อหากมีประวัติดี ธนาคาร หรือสถาบันการเงินจะมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อรายได้อื่น ๆ นอกเหนือจากเงินเดือน
หากผู้ขอกู้สินเชื่อมีรายได้อื่นๆ เช่น รายได้จากธุรกิจส่วนตัว รายได้จากการลงทุน แน่นอนว่านี่ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะขอกู้สินเชื่อในวงเงินที่สูงขึ้นได้อาชีพและสถานะการทำงาน
การประกอบอาชีพก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาวงเงินกู้ ยิ่งมีอาชีพที่มีความมั่นคง หรือมีงานที่ทำรายได้ที่มั่นคงมีรายได้ที่น่าเชื่อถือ เช่น เป็นข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานบริษัทขนาดใหญ่ จะได้รับการพิจารณาวงเงินกู้ที่สูงขึ้น
5 เคล็ดยื่นขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคลให้ผ่านฉลุย
เตรียมจดกันไว้ให้ดี ใครจะกู้สินเชื่อส่วนบุคคลเตรียม 5 สิ่งที่ควรทำก่อนขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคล เรารวมมาให้แล้ว ใครอยากกู้เงินผ่านทำตามได้เลย
ทำประวัติการเงินให้ดีก่อนขอกู้สินเชื่อ
ก่อนที่ธนาคารจะอนุมัติการขอกู้สินเชื่อให้กับใคร ธนาคารมักจะตรวจดูประวัติการชำระสินเชื่อต่างๆ ของตัวเรา ว่าเราประวัติเป็นยังไง จ่ายช้ามั้ย หรือว่ามีไม่จ่ายอะไรหรือเปล่า แน่นอนว่าถ้าชื่อเราขึ้นในเครดิตบูโรว่ามีการค้างชำระ บอกเลยว่าโอกาสที่จะอนุมัติเงินการกู้สินเชื่อยากอยู่เหมือนกันนะ เพราะธนาคารก็คงเลือกอนุมัติให้กับคนที่ประวัติสวยๆ น่าจะดีกว่าแน่นอนคุณคิดว่าจริงไหมเดินบัญชีถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคล
สำหรับมนุษย์เงินเดือนไม่น่าจะมีปัญหาข้อนี้สักเท่าไหร่ เพราะยังไงก็มีเงินเดือนโอนเข้ามาทุกเดือนอยู่แล้ว แต่จะให้ดีน่าจะมีเงินฝากวางนอนนิ่งไว้ในบัญชี อารมณ์ประมาณว่ามีเงินนิ่งอยู่แล้วประดับไว้ในบัญชี คนที่เดินบัญชีได้ดี มีเงินเข้าตลอด ก็มีโอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติกู้สินเชื่อส่วนบุคคลให้ก็สูงขึ้น เพราะธนาคารจะมองว่าลูกหนี้มีรายได้จำนวนมากพอที่จะนำเงินมาทยอยคืนเงินต้นและดอกเบี้ยได้ประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของตัวเองก่อนขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคล
เจ้าหน้าที่ธนาคารส่วนใหญ่จะอนุมัติวงเงินกู้สินเชื่อให้ไม่เกิน 40% ของรายได้ นั่นหมายความว่า เวลาที่เราผ่อนชำระกับทางธนาคารเราจะมียอดที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือน เงินที่ผ่อนชำระคืนให้กับธนาคารนั้นต้องไม่เกิน 40% ของรายได้ที่เราได้รับในแต่ละเดือนเป็นหนี้อื่น ๆ ให้น้อยที่สุดก่อนจะขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคล
ในระบบของเครดิตบูโรจะขึ้นโชว์ข้อมูลเราทั้งหมดว่าผ่อนชำระอะไรอยู่บ้าง แน่นอนว่าถ้าเราผ่อนสินค้าอื่น ๆ อยู่ ธนาคารก็นับรวม 40% ในข้อ 3 ด้วย ดังนั้นก่อนไปกู้เงิน ต้องพยายามเคลียร์รายการผ่อนชำระอื่นให้หมดก่อน เพื่อที่จะได้ไม่กระทบวงเงินที่อนุมัติเตรียมเอกสารในการขอกู้เงินให้พร้อม
สิ่งที่มีปัญหากันมากที่สุดของคนไปขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคลกับทางธนาคาร/สถาบันการเงิน คือ เอกสารไม่สมบูรณ์ ทางที่ดีที่สุด เราควรเดินเข้าไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ว่าถ้าต้องการขอกู้เงิน นั้นต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง แล้วจดมาเตรียมให้ครบ เพราะเวลาที่เรายื่นเข้าไปแล้วเอกสารไม่ครบ ก็จะยิ่งทำให้ขั้นตอนการอนุมัติต่าง ๆ ช้าหรืออาจจะถูกปฏิเสธออกมาเลยก็เป็นได้
