เริ่มต้นออมเงินฝากประจำปลอดภาษี ทางเลือกในการเก็บเงิน

   เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “หากมีเงินจำนวนมาก และไม่อยากเสี่ยง แค่นำเงินไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ย ก็เป็นเสือนอนกินมีเงินใช้ไปตลอดชีวิตแล้ว” ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีเงินเยอะ ๆ ก็สามารถเป็นไปได้ แต่รู้หรือไม่ว่าดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับนั้นไม่ได้รับเต็มทั้งจำนวนนะจ๊ะ นั่นก็เพราะ ดอกเบี้ยเงินฝาก ถือเป็นรายได้ประเภทหนึ่ง จึงต้องเสียภาษีนั่นเองค่ะ แต่ปัจจุบันมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นในการออมเงินในรูปแบบของการฝากประจำปลอดภาษี เป็นรูปแบบการออมที่จูงใจ สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างวินัยการออมเงิน เพื่อรับดอกเบี้ยที่สูงกว่าการออมทรัพย์ปกติโดยยกเว้นภาษี และวันนี้เราพาทุกคนมารู้จักการออมเงินรูปแบบนี้กันเพิ่มขึ้น

ออมเงินแบบไหนดี? 

   รูปแบบการออมเงินต่างๆ ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ ถ้าหากเรารู้จักผลิตภัณฑ์การเงินต่างๆ ดี รู้ว่าข้อดีและความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นคืออะไร เราก็จะสามารถพิจารณาได้ว่า เราควรเลือกลงทุนหรือออมเงินในรูปแบบไหน แต่ก่อนที่เราจะไปถึงขั้นนั้นได้ เราก็ต้องรู้ก่อนว่า เป้าหมายทางการเงินของเราคืออะไร และประเมินตัวเองก่อนว่า ความเสี่ยงที่เรารับได้นั้นสูงแค่ไหน

บัญชีฝากประจำปลอดภาษี คืออะไร 

   ฝากประจำปลอดภาษี คือ เป็นบัญชีเงินฝากประจำที่ได้รับการยกเว้นภาษี แต่ต้องฝากเงินทุก ๆ เดือนเป็นจำนวนเท่ากันตลอดอายุสัญญา ซึ่งระยะเวลาอาจกำหนดไว้แตกต่างกันในแต่ละธนาคาร เช่น 24 เดือน 36 เดือนและมักกำหนดจำนวนเงินฝากขั้นต่ำไว้ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท
   สำหรับคนที่อยากเปิดบัญชีเงินฝากประเภทนี้ควรมีรายได้ประจำ และสามารถนำเงินเข้าบัญชีได้อย่างสม่ำเสมอ โดยแต่ละคนมีสิทธิเปิดบัญชีเงินฝากประเภทนี้ได้เพียงคนละ 1 บัญชีเท่านั้น! ซึ่งหากเลือกเปิดบัญชีกับธนาคารใดแล้วจะเปิดกับธนาคารอื่นหรือธนาคารเดียวกันอีกไม่ได้ เรียกว่า 1 คน 1 สิทธิอย่างเท่าเทียมกัน 
   เพราะหากสรรพากรตรวจพบว่ามีการเปิดมากกว่า 1 บัญชี เราจะไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีดังกล่าวเลย ดังนั้น จึงควรเลือกเปิดบัญชีกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูง และข้อสำคัญต้องคำนึงถึงความสะดวกในการนำเงินเข้าบัญชีด้วย เพราะถ้าขาดฝากเกินกว่าจำนวนครั้งที่กำหนดซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดไว้ไม่เกิน 2 ครั้ง ก็จะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่ธนาคารประกาศ หรือได้รับเท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ หรืออาจต้องเสียภาษี 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ ซึ่งเงื่อนไขของแต่ละธนาคารจะแตกต่างกัน จึงควรศึกษาเงื่อนไขอย่างรอบคอบเพื่อจะได้ไม่เสียสิทธิที่พึงจะได้รับจากการฝากเงินประเภทนี้

ภาษีดอกเบี้ยธนาคาร ที่ถูกยกเว้นการเรียกเก็บ

   สำหรับทางเลือกของคนที่ชอบออมเงิน และอยากได้ดอกเบี้ยเต็ม ๆ โดยที่ไม่อยากเสียภาษี จะมีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากประจำที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 24 - 36 เดือน และเงินฝากรวมทั้งหมดตลอดระยะเวลาไม่เกิน 600,000 บาท ซึ่งจะมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร ตัวอย่างเช่น เมื่อเปิดบัญชีแล้วจะต้องฝากเงินเป็นจำนวนเท่ากันทุกเดือน เช่น ฝากเดือนละ 1,000 บาท ทุกเดือนจนครบกำหนดระยะเวลาฝาก จึงจะได้รับดอกเบี้ยตามเงื่อนไข ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของเงินฝากประจำแบบปลอดภาษีจะให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากประจำทั่วไป และไม่ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เหมือนดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินฝากประจำด้วย แต่เงินฝากประจำแบบปลอดภาษี ได้รับยกเว้นจากกรมสรรพากร เท่ากับว่าคนที่ฝากบัญชีเงินเงินฝากประจำแบบปลอดภาษีจะได้รับผลตอบแทนแบบไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ และไม่ต้องนำมาคำนวณภาษี เมื่อฝากครบระยะเวลาตามเงื่อนไขที่กำหนด 

เช็กเงื่อนไขสำคัญก่อนเปิด บัญชีเงินฝากแบบปลอดภาษี 

• 1 คน สามารถเปิดได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น
• ฝากขั้นต่ำ 500-1,000 บาท/เดือน สูงสุดไม่เกิน 16,500-25,000 บาท/เดือน
• ฝากเงินจำนวนเท่า ๆ กัน ในทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง
• ขาดฝากเกิน 2 ครั้ง จะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามเงื่อนไข
• ถอนหรือปิดบัญชีก่อน 3 เดือน จะไม่ได้รับดอกเบี้ย (ตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร)
• ไม่สามารถถอนก่อนครบกำหนดได้ หากต้องการถอนก่อนครบกำหนดต้องปิดบัญชีเท่านั้น (ตามเงื่อนไขแต่ละธนาคาร)
• รับดอกเบี้ยพร้อมกับเงินต้น เมื่อฝากครบเวลาที่กำหนด

บัญชีเงินฝากประจำทั่วไป และฝากประจำปลอดภาษี แตกต่างกันอย่างไร

   การออมเงินผ่าน บัญชีเงินฝาก ของธนาคารเป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะถูกปลูกฝังให้รู้จักมีวินัยทางการเงิน ทั้งจากคนในครอบครัวและคุณครูที่โรงเรียน แต่อย่างที่ทราบกันแล้วว่าการออมเงินนั้นสามารถทำได้หลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการออมผ่านการฝากธนาคาร การลงทุน หรือการซื้อพันธบัตร ที่ให้ผลตอบแทนสูงล่อตาล่อใจ แต่ก็ยังกลัวกับความเสี่ยงและความซับซ้อนของเงื่อนไขอยู่ บัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี ที่ได้ดอกเบี้ยสูงที่มาพร้อมความเสี่ยงต่ำ แต่ก่อนที่จะเลือกวิธีออมเงินแบบนี้ ก็ควรที่จะทำการศึกษาเงื่อนไขสำคัญให้เข้าใจก่อนที่จะตัดสินใจด้วยนะ