เทคนิคยื่นกู้สินเชื่อออนไลน์ สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยกู้

531 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เทคนิคยื่นกู้สินเชื่อออนไลน์ สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยกู้

ไม่ผ่านการอนุมัติ คำตอบสั้น ๆ ที่สำหรับใครที่ยื่นขอสินเชื่อออนไลน์ ไม่อยากได้ยิน เป็นคำตอบสั้น ๆ แต่สุดผิดหวังและความกังวลใจให้กับหลาย ๆ คน ที่วาดฝันถึงเงินก้อนที่จะมาช่วยต่อเติมความฝัน หรือแก้ไขปัญหาการเงินเฉพาะหน้า  คำว่า "ไม่ผ่านการอนุมัติ" นั้น มีสาเหตุ และปัจจัยต่าง ๆ มากมาย ซึ่งหากเราเข้าใจถึงสาเหตุก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อให้ผ่านฉลุยได้ในครั้งต่อไป วันนี้ “มันนี่ ฮับ” มีเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยให้ขอสินเชื่อออนไลน์ สำหรับผู้กู้สินเชื่อมือใหม่ มาฝาก เพียงทำตาม 6 เทคนิคนี้ ขอสินเชื่อออนไลน์ ไหนก็ผ่านแน่นอน


สาเหตุทำไมถึงขอสินเชื่อไม่ผ่าน

   ก่อนที่เราจะไปดูเทคนิค ขอสินเชื่อออนไลน์ ไหนก็ผ่านแน่นอน มันนี่ ฮับ จะพาคุณ มาหาคำตอบว่าเหตุไฉนการยื่นกู้สินเชื่อมือใหม่ ถึง "ไม่ผ่านการอนุมัติ" จาก 5 สาเหตุหลัก ๆ ด้วยกันประกอบไปด้วย

  1. เรื่องของเครดิตผู้ยืนกู้

       การมีประวัติการชำระหนี้ไม่ตรงเวลา มีประวัติผิดนัดชำระหนี้บ่อยครั้ง หรือมีหนี้เสีย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกบันทึกไว้ในเครดิตบูโร เมื่อสถาบันการเงินตรวจสอบประวัติ ก็จะเห็นถึงความไม่น่าไว้วางใจในการชำระหนี้ ทำให้การอนุมัติสินเชื่อนั้นค่อนข้างยากและส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของผู้กู้ เพราะสถาบันการเงินจะมองว่าผู้กู้มีความเสี่ยงสูงในการผิดนัดชำระหนี้ จึงไม่กล้าปล่อยสินเชื่อให้
  2. มีปัญหาด้านรายได้และอาชีพ

       รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ : รายได้เป็นเหตุผลที่มีผลกับการตัดสินใจในการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ หากผู้ที่ทำการยื่นกู้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำอาจจะมีความเสี่ยงสูงที่จะไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามกำหนด ดังนั้น การมีรายได้ที่มั่นคง และเพียงพอกับภาระหนี้สิน จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการขอสินเชื่อให้ผ่าน
    อาชีพที่มีรายได้ไม่สม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์, ฟรีแลนซ์, หรืออินฟลูเอนเซอร์ อาจทำให้การตัดสินใจในการอนุมัติสินเชื่อนั้นค่อนข้างท้าทาย จึงมีความจำเป็นเตรียมเอกสารเพิ่มเติม เช่น หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือหลักฐานการเสียภาษี เพื่อยืนยันแหล่งที่มาของรายได้
    อายุงานน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับผู้ที่ยื่นกู้สินเชื่อมือใหม่ หากเพิ่งเริ่มทำงาน หรือมีอายุงานน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เช่น บางสถาบันการเงินอาจกำหนดว่าผู้กู้ต้องมีอายุงานอย่างน้อย 6 เดือน หรือ 1 ปี จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้เสียสิทธิ์ขอสินเชื่อได้
  3. ภาระหนี้สินเดิมสูงเกินกว่าที่สถาบันการเงินกำหนด

       โดยปกติสถาบันการเงินจะต้องพิจารณาถึงภาระหนี้สินที่มีอยู่ในปัจจุบันของผู้กู้ด้วย โดยส่วนใหญ่จะดูจากอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่ามีรายได้เพียงพอต่อการผ่อนชำระหนี้สินหรือไม่
  4. เอกสารไม่ครบถ้วน หรือข้อมูลไม่ถูกต้อง

       เอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ประกอบในการยื่นกู้ ต้องเตรียมให้ครบถ้วนและถูกต้อง เช่น สลิปเงินเดือน หรือรายการเดินบัญชีธนาคาร หากขาดเอกสารเหล่านี้ หรือมีข้อมูลที่ไม่ตรงตามที่เงื่อนไขของสถาบันการเงินที่ได้แจ้งไว้ การขอสินเชื่อก็อาจถูกปฏิเสธได้
     

 

เทคนิคนี้ ขอสินเชื่อออนไลน์ ไหนก็ผ่านแน่นอน

    หลาย ๆ คนคงจะมีคำถามว่า มีวิธีไหนบ้างไหม ที่จะทำให้กู้ขอสินเชื่อผ่านไปได้แบบฉลุยเลย ซึ่งก็มี 4 เทคนิคง่าย ๆ มาแชร์ รับรองว่าทำตามนี้ ขอสินเชื่อได้ผ่านฉลุยแน่นอน

  1. ศึกษาข้อกำหนด และเงื่อนไขของสินเชื่อแต่ละประเภท

       หากอยากขอสินเชื่อ หรือยื่นกูธนาคาร ขั้นตอนแรกให้ศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขของสินเชื่อนั้น ๆ ให้ละเอียด โดยธนาคารจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้กูตามหลักเกณฑ์ ที่กำหนดไว้ดังนี้
    - ข้อมูลส่วนบุคคล และสถานภาพการทำงาน ความมั่นคงของรายได้ และประวัติการชำระหนี้ ของผู้ขอสินเชื่อ
    - ความสามารถในการชำระหนี้ ธนาคารจะพิจารณาจากภาระหนี้สินที่มีอยู่ ประวัติการชำระหนี้ว่ามีการค้างหนี้ จ่ายช้า หรือมีประวัติหนีหนี้หรือไม่
    - หลักประกันที่ผู้กู้นำมาเป็นหลักค้ำประกัน ให้ผู้ให้กู้เกิดความมั่นใจ ลดความเสี่ยงในกรณีที่ผู้กู้ไม่ชำระหนี้ตามที่กำหนด
    - ปัจจัยแวดล้อม นอกจากสถานภาพทางการเงินของผู้กู้แล้ว ธนาคารก็จำเป็นต้องพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ภาวะเศรษฐกิจ อย่างหนี้ครัวเรือนที่อาจเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อการชะลอการอนุมัติกู้เช่นเดียวกัน
  2. ประเมินสัดส่วนของรายได้ตนเอง

       ประเมินสัดส่วนของรายได้ตนเอง เช่น รายได้ประจำ + รายได้จากช่องทางอื่น ๆ พอไหมที่จะนำมาชำระหนี้ในแต่ละงวด ควรวางแผนเตรียมออมเงินให้ได้ 20% ของวงเงินที่ต้องการก่อน
  3. เลือกสินเชื่อให้เหมาะสม

       สินเชื่อมีหลายประเภท เลือกให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ในการใช้ ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อจึงควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลาย ๆ สถาบันการเงิน เพื่อให้ได้สินเชื่อที่ตอบโจทย์และช่วยให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
  4. อย่าเป็นหนี้เกินตัว

       การเป็นหนี้ ที่แบกมากเกินไปก็อาจทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจกู้ยืมเงิน ควรประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของตัวเองให้ดี โดยปกติแล้วหากมีภาระหนี้ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ เพื่อใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน และมีเงินสำรองไว้สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
  5. เตรียมเอกสารให้พร้อม

       ไม่ว่าจะขอสินเชื่อออนไลน์ หรือขอสินเชื่อประเภทไหน การเตรียมเอกสารให้พร้อมเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ โดยเฉพาะเอกสารของตัวผู้กู้เอง เช่น สำเนาบัตรประชาขน สำเนาทะเบียนบ้าน ฯลฯ ทั้งนี้ ยังรวมถึง หนังสือรองรับเงินเดือน สลิปเงินเดือน เอกสารประวัติรายได้ รายการเดินบัญชีอย่างน้อย 3-6 เดือน ควรเตรียมเอกสารทั้งหมดไปให้พร้อม ณ วันยื่นกู้ธนาคาร เพื่อผลการอนุมัติจากธนาคารที่เร็วขึ้น
  6. รักษาเครดิตให้ดี

       การรักษาเครติดให้ดี หรือรักษาประวัติการชำระหนี้ในแต่ละงวดให้ดี ในกรณีที่มีประวัติการชำระหนี้เป็นประจำ สม่ำเสมอตรงตามงวดชำระ ไม่เคยค้างจ่าย จ่ายช้า หรือหนี้จ่าย ก็มีแนวโน้มที่ธนาคารจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้ เพราะเป็นการแสดงว่าผู้ขอกู้คนนี้ สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดเวลา
   แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อออนไลน์หรือสินเชื่อปกติ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการบริหารจัดการหนี้สินและสถานะการเงินของเรา ตั้งแต่การประเมินความสามารถในการเป็นหนี้ของตัวเองเท่าที่จำเป็น รักษาเครดิตในการกู้ยืมเงินด้วยการผ่อนชำระตามงวดที่กำหนดไว้ และเลือกสินเชื่อที่ตอบโจทย์ชีวิตเราอย่างแท้จริง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้