สเตทเม้น (Bank Statement) สำคัญอย่างไรกับการขอสินเชื่อ

18 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สเตทเม้น (Bank Statement) สำคัญอย่างไรกับการขอสินเชื่อ

     เมื่อพูดถึงการยื่นขอสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคล เอกสารหนึ่งที่สถาบันการเงินทุกแห่งต้องขอจากผู้กู้เสมอ คือ “สเตทเม้น” หรือที่เรียกเต็ม ๆ ว่า Bank Statement นั่นเอง แล้ว สเตทเม้นคืออะไร? ทำไมถึงมีความสำคัญขนาดนั้น? มาทำความเข้าใจไปพร้อมกันในบทความนี้


สเตทเม้นคืออะไร?

     สเตทเม้นคืออะไร? คำตอบที่สามารถเข้าใจง่ายก็คือ เอกสารหรือรายงานจากธนาคารที่แสดงรายการเคลื่อนไหวทางการเงินของบัญชีธนาคารในช่วงเวลาที่กำหนด โดยปกติจะออกเดือนละครั้ง หรือสามารถขอย้อนหลังได้ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน ตามความต้องการของผู้ใช้ในสเตทเม้นจะมีข้อมูลสำคัญดังนี้

  • ชื่อและนามสกุลของเจ้าของบัญชี
  • หมายเลขบัญชี
  • ยอดเงินคงเหลือในแต่ละวัน
  • รายการฝากเงิน รายการถอนเงิน การโอนเข้า-ออก
  • รายการตัดบัญชีอัตโนมัติ เช่น ค่าบัตรเครดิต ประกัน หรือผ่อนชำระสินค้า

    สเตทเม้นถือเป็น "ภาพสะท้อนพฤติกรรมทางการเงิน" ของเจ้าของบัญชี ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูงในการใช้เป็นหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เช่น ขอสินเชื่อ ขอวีซ่า หรือแม้แต่สมัครงานบางตำแหน่ง


ทำไมสเตทเม้นถึงสำคัญกับการขอสินเชื่อ?

     เมื่อธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ขอ พวกเขาต้องแน่ใจว่าผู้ขอสินเชื่อนั้นมีความสามารถในการชำระหนี้ และมีพฤติกรรมทางการเงินที่ดี โดยสเตทเม้นจะช่วยให้เห็นรายละเอียดเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน

  1. ตรวจสอบรายได้และความสม่ำเสมอของเงินเข้า
        ธนาคารจะพิจารณาว่าผู้กู้มีรายได้เข้าบัญชีอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ยิ่งรายได้มีความสม่ำเสมอ เช่น เงินเดือนเข้าในวันที่ใกล้เคียงกันทุกเดือน หรือมีรายได้จากธุรกิจเข้าอย่างต่อเนื่อง ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
  2. วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่าย
        สเตทเม้นแสดงให้เห็นว่าผู้กู้ใช้จ่ายอย่างมีวินัยหรือไม่ เช่น มีการออมเงินหลังหักรายจ่ายหรือไม่ ใช้เงินหมดก่อนสิ้นเดือนหรือเปล่า หากมียอดถอนเงินเกินบัญชีบ่อยครั้ง หรือใช้วงเงินใกล้เต็มทุกเดือน ก็อาจส่งผลลบต่อการอนุมัติสินเชื่อ
  3. ตรวจสอบความสามารถในการบริหารหนี้
        นอกจากดูยอดเงินเข้าออกแล้ว สถาบันการเงินยังพิจารณาจากยอดคงเหลือในบัญชี ว่าหลังจากหักรายจ่ายแล้ว ยังเหลือพอที่จะผ่อนชำระสินเชื่อหรือไม่ ถ้ายอดคงเหลือเพียงเล็กน้อยหรือเป็นศูนย์ตลอด อาจแสดงถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้
  4. เป็นหลักฐานยืนยันรายได้แทนเอกสารอื่น
        โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่มีเอกสารแสดงรายได้ เช่น
    - ฟรีแลนซ์
    - เจ้าของธุรกิจรายย่อย
    - ผู้ค้าขายออนไลน์ กลุ่มเหล่านี้สามารถใช้สเตทเม้นแทนเอกสารรับรองรายได้ได้ หากบัญชีมีความเคลื่อนไหวจริงตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจของผู้ยื่นขอ
  5. ช่วยประกอบการพิจารณาวงเงินและดอกเบี้ย
        ผู้ที่มีสถานะการเงินดี มียอดคงเหลือในบัญชีสูง และไม่มีหนี้เสีย อาจได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อมากขึ้น หรือได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า



ขอสเตทเม้นยังไง?

    ผู้ขอสินเชื่อสามารถขอสเตทเม้นได้หลายช่องทาง ดังนี้

  1. ขอผ่านสาขาธนาคาร
        วิธีดั้งเดิมที่ยังนิยมใช้ โดยเฉพาะเมื่อต้องการเอกสารแบบประทับตราธนาคารเพื่อความน่าเชื่อถือ มักมีค่าธรรมเนียมฉบับละ 100–200 บาท
  2. ดาวน์โหลดผ่านแอปธนาคาร
        แทบทุกธนาคารมีแอปพลิเคชันที่สามารถดาวน์โหลดสเตทเม้นแบบ PDF ได้ทันที สะดวกและไม่มีค่าใช้จ่าย (แนะนำให้เลือกเวอร์ชันที่มีตราประทับอิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้กับการยื่นขอสินเชื่อ)
  3. ขอผ่านเว็บไซต์ธนาคาร
        บางธนาคารมีบริการขอสเตทเม้นย้อนหลังผ่านเว็บไซต์ โดยสามารถเลือกช่วงเวลาและสั่งพิมพ์ได้ทันที


ข้อควรระวังเกี่ยวกับสเตทเม้น

  1. อย่าปลอมแปลงสเตทเม้น การดัดแปลงหรือแก้ไขข้อมูลในสเตทเม้นเป็นความผิดตามกฎหมาย และธนาคารสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย
  2. ดูแลยอดเงินให้สมดุลล่วงหน้า หากรู้ว่าจะยื่นกู้ ควรดูแลการใช้จ่ายให้มียอดคงเหลือและเงินเข้าออกที่ดูดีล่วงหน้าอย่างน้อย 3–6 เดือน
  3. ใช้บัญชีหลักที่เคลื่อนไหวสม่ำเสมอ ถ้ามีหลายบัญชี ควรเลือกบัญชีที่ใช้รับรายได้หรือหมุนเวียนธุรกิจเป็นประจำ


เคล็ดลับเตรียมสเตทเม้นให้พร้อมก่อนยื่นขอสินเชื่อ

  • วางแผนการเงินล่วงหน้า อย่าปล่อยให้บัญชีติดลบ หรือมีรายการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเป็นประจำ
  • หมั่นตรวจสอบบัญชีรายเดือน เพื่อแน่ใจว่ารายการต่าง ๆ ในสเตทเม้นถูกต้องและสะท้อนพฤติกรรมการเงินที่ดี
  • รวมรายได้เข้าบัญชีเดียว หากมีรายได้หลายช่องทาง ควรโอนเข้าสู่บัญชีเดียวเพื่อให้เห็นภาพรวมชัดเจน
  • จัดการหนี้เก่าให้ดี หากยังมีหนี้สินจากที่อื่น ควรชำระตรงเวลา และไม่ค้างชำระ เพราะอาจมีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อใหม่


    สเตทเม้นคืออะไร? คำตอบก็คือ เอกสารที่แสดงรายการเคลื่อนไหวทางการเงินของบัญชีธนาคาร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพิจารณาสินเชื่อ เพราะเป็นตัวชี้วัดความมั่นคงทางการเงิน ความสามารถในการชำระหนี้ และพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้ขอสินเชื่อ หากคุณวางแผนจะยื่นขอสินเชื่อในเร็ว ๆ นี้ อย่าลืมดูแลบัญชีธนาคารให้มีภาพลักษณ์ที่ดี สม่ำเสมอ และโปร่งใส
     พร้อมยื่นขอสินเชื่อหรือยัง? หากคุณต้องการสินเชื่ออนุมัติง่าย ใช้เอกสารไม่เยอะ และมีทีมงานให้คำปรึกษาเรื่องสเตทเม้นและการเตรียมเอกสารอย่างมืออาชีพ ติดต่อเราวันนี้ เพื่อให้คุณเดินหน้าทางการเงินได้อย่างมั่นใจ!

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้