สินเชื่อรถยนต์ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับความสนใจ สินเชื่อรถยนต์ นั้นไม่ได้มีแค่การใช้รถแลกเงินเท่านั้น แต่ยังความหลากหลายของประเภทสินเชื่อจนอาจทำให้หลายคนเกิดความสับสน วันนี้ “มันนี่ฮับ” จะมาแบ่งเรื่องราวเกี่ยวกับสินเชื่อประเภทนี้ให้กับ ทุก ๆ ได้ทำความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
สินเชื่อรถยนต์คืออะไร
สินเชื่อรถยนต์ คือ บริการทางการเงินที่ช่วยให้ผู้ที่ต้องการใช้เงิน ได้นำไปใช้ในเป้าหมายต่าง โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ทันที โดยผู้ขอสินเชื่อจะผ่อนชำระเป็นงวด ๆ พร้อมดอกเบี้ยตามที่ตกลงกับสถาบันการเงิน ทั้งนี้รถยนต์เป็นสินทรัพย์ประเภทหลักประกัน ซึ่งจะถูกใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ
สินเชื่อรถยนต์มีกี่ประเภท
สินเชื่อรถยนต์ สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท โดยแต่ละประเภทมีลักษณะและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ดังนี้
สินเชื่อรถยนต์เช่าซื้อ
สินเชื่อรถยนต์เช่าซื้อ นั้นจะเป็นการซื้อรถยนต์ แล้วผู้กู้จะทำการผ่อนชำระเป็นงวด ๆ จนกว่าจะครบตามจำนวนที่ตกลงกัน พอชำระเงินครบถ้วน ผู้กู้จะได้เป็นเจ้าของรถยนต์อย่างสมบูรณ์ การเช่าซื้อเป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดสินเชื่อไฟแนนซ์
สินเชื่อไฟแนนซ์ เป็นการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่ไม่ได้ผูกพันกับผู้ขายรถยนต์โดยตรง ผู้ขอสินเชื่อสามารถเลือกซื้อรถจากผู้ขายใดก็ได้แล้วนำมาขอสินเชื่อไฟแนนซ์ ซึ่งมักมีเงื่อนไขและดอกเบี้ยที่แตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบันการเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการลดภาระทางการเงินจากการผ่อนชำระค่างวดรายเดือน วิธีนี้จะช่วยลดดอกเบี้ยและลดค่างวดรายเดือน ทำให้การจัดการภาระทางการเงินเป็นไปได้ง่ายขึ้นสินเชื่อรถแลกเงิน
เป็นการใช้รถยนต์ที่มีอยู่แล้วเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินสินเชื่อจะขึ้นอยู่กับมูลค่าของรถยนต์ การรถแลกเงินช่วยให้ผู้ขอสินเชื่อได้รับเงินสดทันที ในแต่ละประเภทของสินเชื่อรถยนต์ ผู้ขอสินเชื่อต้องพิจารณาเงื่อนไขและดอกเบี้ยอย่างละเอียด เพื่อให้ได้สินเชื่อที่ตรงกับความต้องการและสภาพการเงินของตนเอง
เอกสารที่ต้องใช้ สำหรับการขอสินเชื่อรถ มีอะไรบ้าง
เรื่องของเอกสารในการขอสินเชื่อรถนั้น ส่วนใหญ่สถาบันการเงินก็มักจะมีความต้องการคล้ายๆ กัน จะมีเอกสารอะไรบ้างนั้นมาดูไปพร้อม ๆ กัน เอกสารในการขอสินเชื่อรถที่ต้องเตรียมมีดังนี้
- เอกสารแสดงตัวตน เอกสารแสดงตัวตนเป็นเอกสารที่ใช้ในการบอกถึงความมีตัวตนของผู้กู้ ว่าเป็นใคร ที่อยู่เป็นอย่างไร และมีสถานภาพสมรสอย่างไร โดยเอกสารเหล่านี้สามารถขอรับได้ที่หน่วยงานราชการ เช่น กรมการกงสุล กรมการปกครอง หรือสำนักงานเขต นั่นคือ
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารแสดงสถานภาพสมรส (ถ้ามี)
2. เอกสารแสดงรายได้
เป็นเอกสารที่ช่วยในการยืนยัน และช่วยให้สถาบันการเงินทราบว่าผู้ขอสินเชื่อมีรายได้เพียงพอที่จะผ่อนชำระสินเชื่อรถได้ ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการขอสินเชื่อรถ เอกสารเหล่านี้ สามารถขอรับได้ที่บริษัทหรือหน่วยงานต้นสังกัดของผู้ขอสินเชื่อ หรือหากประกอบอาชีพอิสระหรือเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็สามารถขอรับได้ที่กรมสรรพากร ดังนี้
- สลิปเงินเดือนปัจจุบัน
- หนังสือรับรองเงินเดือนจากบริษัท
- หนังสือหักภาษี ณ ที่จ่าย
- เอกสารรับรองรายได้อื่น ๆ เช่น เอกสารแสดงรายได้จากการประกอบอาชีพอิสระ หรือเอกสารแสดงรายได้จากธุรกิจ เป็นต้น
3. เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของรถ (กรณีสำหรับรถแลกเงิน)
เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันความเป็นเจ้าของ ที่ช่วยให้สถาบันการเงินทราบว่าผู้ขอสินเชื่อมีทรัพย์สินเพียงพอ ที่จะเป็นหลักประกัน โดยสามารถขอรับได้ที่กรมการขนส่งทางบก ดังนี้
- สำเนาทะเบียนรถยนต์ (กรณีขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถ)
4. เอกสารที่อาจต้องใช้เพิ่มเติม
ส่วนใหญ่แล้วในการขอสินเชื่อรถ สถาบันการเงินมักต้องการเอกสารแสดงประวัติการผ่อนชำระหนี้และประวัติการเงิน เพราะจะช่วยให้สถาบันการเงินทราบว่ามีประวัติการชำระหนี้ที่ดีหรือไม่ เอกสารเหล่านี้สามารถขอรับได้ที่ธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่ให้บริการบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล หรือสามารถขอรับได้ที่บริษัทเครดิตบูโร โดยมีดังนี้
- เอกสารแสดงประวัติการผ่อนชำระหนี้ เช่น สำเนาใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต หรือใบแจ้งหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล
- เอกสารแสดงประวัติการเงิน เช่น สำเนารายงานเครดิตบูโร
สถาบันการเงินแต่ละแห่ง อาจมีความต้องการเอกสารเพิ่มเติมที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนที่จะทำการยื่นก็ควรที่จะศึกษาให้แน่ใจก่อนว่าจะยื่นขอสินเชื่อรถกับที่ไหน ควรสอบถามรายละเอียดกับก่อนยื่นเอกสาร และเตรียมพร้อมให้ครบถ้วนก่อนทำการยื่น ที่สำคัญเอกสารทุกฉบับควรมีอายุไม่เกิน 6 เดือน
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวควรรู้ เกี่ยวกับเอกสาร ที่ต้องเตรียมไว้เพื่อกู้สินเชื่อรถยนต์ ที่คงจะทำให้คุณได้เข้าใจมายิ่งขึ้น ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้แล้วการจะมีรถยนต์สักคันคงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป อย่างไรก็ดีเมื่อรู้แล้วว่าจะต้องซื้อรถ ก็ควรเริ่มต้นวางแผนการใช้เงินให้มีวินัยเพิ่มมากยิ่งขึ้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อสถานะทางการเงินของคุณในอนาคตนั่นเอง