เป็นหนี้สินเชื่อออนไลน์ แล้วไม่จ่ายมีผลเสียอย่างไร

22 จำนวนผู้เข้าชม  | 

มีหนี้สินแล้วไม่จ่ายมีผลเสียอย่างไร

   ในสถานการณ์เดี๋ยวนี้เรื่องของการเงินนั้นหลาย ๆ คน ต่างหันไปพึ่งพาการกู้สินเชื่อ และก็มีหลาย ๆ คนที่เมื่อกู้เงินไปแล้ว ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ตามเวลาที่กำหนดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม และไม่กล้าที่จะหาตัวช่วยสุดท้ายสินใจผิดบิดหนีหนี้ รู้หรือไม่ว่าผลที่ตามมานั้นมีผลเสียมากกว่าที่คิด วันนี้ “มันนี่ ฮับ” มีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก
   หลายคนกู้หนี้ยืมสินมาจำนวนมาก ๆ แต่เมื่อถึงเวลาก็กลับไม่จ่ายตามระยะเวลาที่กำหนด อันเนื่องมาจากหมุนเงินไม่ทัน ในช่วงแรกอาจมีการกู้หนี้ยืมสินมาโปะ แต่พอนานวันเข้าสถานะการเงินเริ่มไม่มั่นคงและสุดท้ายก็ ไม่ยอมจ่าย ตามสเต็ปไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย นั่นเอง โดยที่ไม่อาจรู้เลยว่าผลกระทบจากการหยุดจ่ายหนี้ที่จะตามมาจะเกิดอะไรขึ้นตามมาบ้าง


ผลเสียจากการมีหนี้สิน สินเชื่อออนไลน์แล้วไม่จ่าย

   เมื่อมีหนี้สินแล้วไม่จ่ายหนี้ของคุณจะเปลี่ยนจากหนี้ดีที่ชำระหนี้ตรงตามเวลามาตลอด กลายเป็นหนี้เสียโดยทันที เรามาดูผลกระทบจากการหยุดจ่ายหนี้กันว่าจะส่งผลร้ายแรงต่อตัวเราอย่างไร

  1. เสียเครดิตการเงิน

       จะต้องตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ในอดีตที่ผ่านมาของเราว่ามีความสามารถในการชำระหนี้ได้และมีวินัยทางการเงินมากเพียงพอหรือไม่
  2. เสียโอกาสการทำธุรกรรมทางการเงิน

       ความเสียหายนอกจากการที่ต้องจากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ขอกู้สินเชื่อยากขึ้นแล้ว การหยุดจ่ายหนี้ทำให้ลดโอกาสการทำธุรกรรมการเงินกับธนาคาร เพราะความน่าเชื่อถือจากประวัติการเงินหรือประวัติการชำระหนี้ที่สถาบันทางการเงินตรวจสอบก็จะน้อยลงตามด้วย
  3. เสียทรัพย์สินหากมีการฟ้องร้อง

       การเลี่ยงการเผชิญกับปัญหาหนี้สินด้วยการหยุดจ่ายหนี้ ซึ่งหากไม่ชำระเป็นระยะเวลานาน ๆ คุณอาจจะโดนสถาบันทางการเงินฟ้องร้องเพื่อเรียกคืนหนี้ และร้ายแรงอาจถึงขั้นเป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งหากไปถึงขั้นขึ้นศาล ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายกระบวนการในการดำเนินการอีก และไม่รู้ว่าคำพิพากษาจะจบลงหรือสิ้นสุดเมื่อไหร่


สัญญาณที่ทำให้รู้ว่าเราเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหว

  1. เริ่มใช้จ่ายแบบเดือนชนเดือน

       สัญญาณแรก คือ การใช้เงินแบบเดือนชนเดือน เมื่อมีรายได้เข้ามาก็นำไปใช้จ่าย รวมถึงนำไปจ่ายหนี้สินต่างๆ ทำให้ไม่มีเงินเหลือเก็บ หรือไม่มีเงินเหลือต่อเดือนจนขาดสภาพคล่อง
  2. ผ่อนชำระตามจำนวนยอดหนี้ขั้นต่ำ

       เริ่มจ่ายเงินชำระในแต่ละเดือนในขั้นต่ำที่กำหนด แสดงว่าเราเริ่มมีปัญหาด้านการเงินแล้ว อาจจะใช้เงินเยอะเกินตัวจนเหลือเงินน้อยลงกว่าเมื่อก่อน ทำให้มีเงินพอแค่ชำระขั้นต่ำต่อเดือน
  3. เริ่มชำระหนี้สินเชื่อออนไลน์ล่าช้า

       เริ่มชำระหนี้สินเชื่อออนไลน์ต่างๆ ล่าช้า ชำระไม่ตรงเวลา หรือบางครั้งก็อาจไม่ชำระในบางเดือน เป็นสัญญาณที่สะท้อนได้ว่าเราเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหว และอาจมีปัญหาหนี้สินอื่นๆ ตามมาอีก
  4. ขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินมาชำระหนี้

       เมื่อเราเริ่มหาสินทรัพย์ส่วนตัวออกมาขาย เพื่อนำเงินไปจ่ายชำระหนี้ต่าง ๆ แสดงว่าเริ่มมีปัญหาทางการเงิน ไม่มีเงินใช้เพียงพอต่อเดือนจนต้องหาวิธีที่ทำให้มีเงินไปจ่ายชำระหนี้ 


ทำอย่างไรเมื่อต้องแบกรับภาระหนี้สิน หนี้สินเชื่อออนไลน์เยอะแต่ไม่อยากให้ประวัติการเงินไม่ดี

   ถ้ารู้ตัวว่าตอนนี้แบกรับภาระหนี้ที่มากเกินความจำเป็นและสวนทางกับรายรับที่มีอย่างแรกเลยคือ “อย่าหนีหนี้” เพราะนี่ไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง และมีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลงซึ่งได้ไม่คุ้มเสียกันอย่างแน่นอน ในปัจจุบันมีทางออกสำหรับคนที่เป็นหนี้อยู่เยอะ กับ 6 ทางรอดปลดหนี้ จบทุกปัญหาหนี้สินเยอะจ่ายไม่ไหว

  1. ปรึกษาธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้

       เมื่อเริ่มรู้สึกว่าหนี้เยอะจนจ่ายไม่ไหว ลองเข้าไปเจรจากับสถาบันการเงินที่เรากู้สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อออนไลน์อยู่ เพื่อเจรจาประนอมหนี้ หรืออาจเข้าไปปรึกษา และตกลงวางแผนชำระร่วมกัน เช่น ขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ขอลดอัตราดอกเบี้ย ขอหยุดการคิดอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว เป็นต้น
  2. รวมหนี้สิน หนี้สินเชื่อออนไลน์เป็นก้อนเดียว

       หากมีหนี้สินอยู่หลายที่ แนะนำให้รวบรวมข้อมูลหนี้สินทั้งหมดที่มีมากองรวมกันก่อน เพื่อดูว่าตอนนี้มีอะไรบ้าง แต่ละรายการหนี้มีอัตราดอกเบี้ยต่อปีเท่าไหร่ มียอดหนี้คงเหลือเท่าไรบ้าง หลังจากนั้นเรานำมารวมกันเป็นหนี้ก้อนใหญ่ เอาไว้เหลือสัญญาเดียวกับธนาคารเจ้าหนึ่ง แล้วทยอยผ่อนจ่ายรายเดือน สามารถเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระได้เอง สินเชื่อออนไลน์ จาก “มันนี่ฮับ” ตอบโจทย์ในกรณีอยากรวมหนี้เลย ยื่นกู้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ หรือ แอปสินเชื่อก็ได้
  3. ปรับโครงสร้างหนี้

       การปรับโครงสร้างหนี้ เป็นการเปลี่ยนเงื่อนไขการจ่ายหนี้เพื่อให้เรายังสามารถชำระหนี้ต่อได้ ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้มีทางเลือกหลากหลายวิธี เช่น ขยายเวลาชำระหนี้ พักชำระเงินต้น ลดอัตราดอกเบี้ย เปลี่ยนประเภทหนี้ เป็นต้น
  4. ไม่สร้างหนี้สิน หนี้สินเชื่อออนไลน์ใหม่

       ไม่ควรจะสร้างหนี้ก้อนใหม่เพิ่ม ถ้าหนี้ก้อนเดิมยังชำระไม่หมด ยกเว้นหนี้ก้อนใหม่นี้จะเกิดขึ้นมาเพื่อปลดภาระหนี้ก้อนเก่าให้หมด โดยจะต้องมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า หรือเรียกอีกอย่างได้ว่า เป็นการรวมหนี้สินจากหลายที่ให้เป็นก้อนเดียว เพื่อขออนุมัติสินเชื่อกับอีกแห่งหนึ่ง แล้วเราค่อยผ่อนชำระรายเดือนกับธนาคารเจ้าใหม่แทน
  5. มีเงินก้อนให้รีบโปะหนี้

       เมื่อมีรายได้ก้อนใหม่เข้ามาหรือเมื่อเงินเดือนออกแล้วก็ควรจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาทยอยโปะหนี้ในทุก ๆ เดือน และควรชำระหนี้ให้ตรงเวลา ถ้าสามารถชำระหนี้ให้มากกว่ายอดเรียกเก็บเงินขั้นต่ำหรือโปะเพิ่มได้มากกว่าค่างวดที่ต้องจ่ายทุกเดือน ก็จะช่วยให้ตัดเงินต้นและประหยัดดอกเบี้ยได้เยอะ
  6. ปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

       หลายคนอาจจะประสบปัญหาเงินไม่พอใช้จ่ายในแต่ละเดือน โดยส่วนใหญ่สาเหตุหลักมาจากการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเยอะจนเกินไป หรืออาจจะใช้จ่ายเยอะเกินความจำเป็นโดยที่ไม่รู้ตัว วิธีแก้ง่าย ๆ คือ สำรวจค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนก่อน เพื่อดูว่ามีค่าใช้จ่ายรายการไหนบ้างที่เกินความจำเป็นและเราสามารถลดส่วนนั้นได้


   หากมีความจำเป็นต้องใช้เงิน เพื่อสนใจสินเชื่อออนไลน์ สามารถยื่นกู้สินเชื่อออนไลน์ด้วยตนเองได้ง่าย ๆ ตลอด 24 ชม. แนะนำเลยที่นี่แอปมันนี่ฮับ แอปสินเชื่อ โปร่งใสได้มาตรฐาน ไว้ใจได้รองรับมือถือทุกระบบ หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID : @moneyhub

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้