คำถามยอดฮิต... หากผ่านการพิจารณาสินเชื่อแล้ว แต่ชำระไม่ตรงงวด จะมีสิทธิกู้ครั้งถัดไปผ่านไหม?

57 จำนวนผู้เข้าชม  | 

คำถามยอดฮิต... หากผ่านการพิจารณาสินเชื่อแล้ว แต่ชำระไม่ตรงงวด จะมีสิทธิกู้ครั้งถัดไปผ่านไหม?

สวัสดีเพื่อน ๆ วันนี้มันนี่ฮับจะขอมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่หลายคนน่าจะเคยเจอ หรืออย่างน้อยก็คงเคยได้ยินมาบ้าง นั่นก็คือเรื่อง "จ่ายสินเชื่อไม่ตรงงวด" ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้หลายคนกังวลใจมาก โดยเฉพาะเวลาที่ต้องการขอกู้ครั้งต่อไป มันเป็นคำถามที่เจอกันบ่อยมากว่า "ถ้าเราเคยได้รับอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว แต่ชำระไม่ตรงกำหนด จะทำให้โอกาสกู้ครั้งถัดไปยากขึ้นไหม?" เพื่อให้เข้าใจเรื่องนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ พร้อมกับยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ ไปเลย


พื้นฐานของการขอสินเชื่อ

    ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่าการขอสินเชื่อคืออะไร และสถาบันการเงินพิจารณาสินเชื่อจากอะไรบ้าง เวลาที่เราขอสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น รายได้ต่อเดือน ภาระหนี้ที่มีอยู่ ประวัติการชำระหนี้ (เครดิตบูโร) อาชีพและความมั่นคงในการทำงาน
อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ (Debt to Income Ratio)
    หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ธนาคารให้ความสำคัญมาก ๆ ก็คือ "ประวัติการชำระหนี้" ถ้าเราชำระหนี้ตรงเวลามาโดยตลอด ก็จะส่งผลดีต่อคะแนนเครดิตและทำให้โอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อครั้งต่อไปสูงขึ้นแต่ถ้าเกิดปัญหา จ่ายสินเชื่อไม่ตรงงวด ขึ้นมา อันนี้แหละที่ทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าโอกาสในการขอกู้ครั้งต่อไปจะเป็นยังไง


ถ้าจ่ายสินเชื่อไม่ตรงงวด จะมีผลอย่างไรบ้าง?

   ลองคิดตามสถานการณ์นี้ดูนะ สมมติว่า...คุณเอ เพิ่งได้รับอนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคารแห่งหนึ่ง จำนวน 200,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องชำระคืนเดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 4 ปี ในช่วง 3 เดือนแรก คุณเอจ่ายตรงเวลาตลอด ทุกอย่างดูราบรื่นดี จนกระทั่งเดือนที่ 4 เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เงินเดือนออกล่าช้า รายจ่ายเกินงบ

    ทำให้คุณเอ จ่ายค่างวดช้ากว่าเวลาที่กำหนดไป 10 วัน หลังจากนั้นเดือนต่อ ๆ มาก็เริ่มจ่ายช้าบ้าง ขาดบ้าง กลายเป็นปัญหาสะสม


ผลที่ตามมามีอะไรบ้าง?

  1. ดอกเบี้ยปรับ แน่นอนว่าการจ่ายช้า จะทำให้ธนาคารคิดดอกเบี้ยปรับทันที ซึ่งดอกเบี้ยนี้อาจสูงถึง 18%–28% ต่อปี เลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับประเภทของสินเชื่อ
  2. คะแนนเครดิต (Credit Score) ติดลบ เมื่อชำระล่าช้า ข้อมูลจะถูกส่งไปยัง เครดิตบูโร ทันที ทำให้คะแนนเครดิตของคุณเอลดลง ซึ่งถ้าจ่ายช้าบ่อย ๆ หรือผิดนัดชำระบ่อย คะแนนเครดิตจะต่ำลงอย่างรวดเร็ว
  3. มีประวัติค้างชำระในเครดิตบูโร ถ้ามีประวัติการค้างชำระมากกว่า 90 วัน จะถูกบันทึกในระบบเครดิตบูโร ซึ่งธนาคารและสถาบันการเงินทุกแห่งสามารถตรวจสอบได้ และนี่แหละคือสาเหตุหลักที่ทำให้การขอสินเชื่อครั้งต่อไปยากขึ้น



ถ้าติดประวัติค้างชำระ จะกู้ครั้งถัดไปได้ไหม?

    คำตอบคือ "มีโอกาส" แต่จะยากขึ้นและมีเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้น ถ้าจ่ายช้าเพียง 1–2 ครั้ง ในระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติครั้งถัดไปยังพอมีอยู่ แต่ธนาคารอาจเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หรือกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้น
    ถ้าจ่ายช้าต่อเนื่องหลายเดือน หรือมีการค้างชำระมากกว่า 90 วัน จะถูกจัดเป็นลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง โอกาสที่จะได้รับอนุมัติครั้งถัดไปจะน้อยลง หรืออาจต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
    ถ้าเคลียร์หนี้ได้หมดแล้ว แต่มีประวัติค้างชำระในอดีต คุณอาจต้องรอให้ประวัตินั้นถูกลบจากเครดิตบูโร ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี นับจากวันที่ปิดบัญชี
ตัวอย่างแนวทางแก้ไขเมื่อจ่ายไม่ตรงงวด


ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ไม่ต้องตกใจไป ลองทำตามแนวทางนี้ดู

  1. รีบติดต่อธนาคารทันที อย่าปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อ ถ้าเริ่มจ่ายช้า ให้รีบติดต่อธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือขอขยายระยะเวลาชำระหนี้
  2. จัดการรายรับ-รายจ่ายใหม่  ลองตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปชั่วคราว เช่น ค่าอาหารนอกบ้าน ค่าสมาชิกฟิตเนส หรือค่าบริการสตรีมมิ่ง
  3. ขอกู้ใหม่เมื่อประวัติการชำระดีขึ้น  หลังจากที่จัดระเบียบทางการเงินและสามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลาอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป ค่อยพิจารณาขอกู้ใหม่
  4. ตรวจสอบเครดิตบูโรเป็นประจำ  สามารถเช็กเครดิตบูโรได้ฟรีปีละ 1 ครั้งจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB)



สรุปแล้ว... จะกู้ครั้งถัดไปผ่านไหม ถ้าจ่ายสินเชื่อไม่ตรงงวด?

         คำตอบคือ "ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการชำระในอดีตและปัจจุบัน" 



     เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องบริหารจัดการรายรับ-รายจ่ายให้ดี และถ้ามีปัญหาการเงินเมื่อไหร่ อย่าปล่อยผ่าน รีบติดต่อธนาคารทันที เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด การจ่ายสินเชื่อไม่ตรงงวดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่การปล่อยให้เกิดขึ้นบ่อยครั้งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อโอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคต ทั้งคะแนนเครดิตที่ลดลง อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และโอกาสถูกปฏิเสธสินเชื่อ หากคุณเคยจ่ายสินเชื่อไม่ตรงงวด สิ่งสำคัญคือ การแก้ไขสถานการณ์ อย่างถูกต้อง รักษาวินัยทางการเงิน และสร้างประวัติทางการเงินที่ดีเพื่อเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อครั้งต่อไปให้ผ่านได้ง่ายขึ้น “จ่ายสินเชื่อให้ตรงเวลา = โอกาสทางการเงินที่ดีในอนาคต”

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้