1408 จำนวนผู้เข้าชม |
ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ จากคนปกติ ที่ดำเนินชีวิตแบบง่าย ๆ ก็อาจตกเป็นบุคคลล้มละลายได้ เพราะการก่อหนี้ที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดต่างๆ ที่ทำให้หลายคนกลายเป็นบุคคลล้มละลายมามากมายแล้ว ทำให้ในตอนนี้สถิติคดีล้มละลายก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และวันนี้เราก็จะมาแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนี้กันเพื่อไม่ให้เราเสี่ยงที่จะเป็นบุคคลล้มละลายในอนาคต
บุคคลล้มละลาย คือ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว และไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด จนศาลพิพากษาสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย
บุคคลล้มละลายทุจริต คือ กรณีที่บุคคลล้มละลายกระทำการฉ้อฉล หรือมีพฤติการณ์ทุจริตเกี่ยวกับทรัพย์สินของตัวเอง เพื่อไม่ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามที่ควรจะเป็น เช่น การจำหน่าย โอนย้าย หรือให้ผู้อื่นซ่อนเร้นทรัพย์สินของตัวเองเพื่อไม่ให้เจ้าหนี้ยึด หรืออายัดทรัพย์สินนั้น ถ้าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือเจ้าหนี้พิสูจน์ได้ว่า มีพฤติการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งข้างต้น ศาลอาจพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
ภาระหนี้สินที่อาจนำไปสู่ภาวะล้มละลายได้ มาทำความเข้าใจว่า ต้องเป็นหนี้เท่าไหร่ที่อาจถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้องต่อศาลให้เป็นบุคคลล้มละลาย อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าบุคคลใดจะล้มละลายหรือไม่นั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะวินิจฉัยจากข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายด้วย
หลายท่านอาจเกิดความสงสัยว่าการตกเป็นบุคคลล้มละลายจะทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปอย่างไร ซึ่งอาจสรุปได้ ดังนี้
เมื่อถูกฟ้องเป็นบุคคลล้มละลาย ลูกหนี้ยังคงต้องชำระหนี้ให้ครบถ้วน เพียงแต่จะเป็นการชำระตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กฎหมายกำหนด โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเข้ารวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้ทั้งหมด เพื่อนำมาแบ่งชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ตามสัดส่วน
การถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายนั้นจะมีกำหนดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเมื่อครบกำหนดก็จะถูกปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลาย และภายหลังจากที่มีคำสั่งปลดจากการล้มละลายแล้ว ก็จะสามารถทำงานและทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ อย่างไรก็ดีคำสั่งปลดจากการล้มละลายนี้ จะส่งผลให้บุคคลล้มละลายนั้นหลุดพ้นจากหนี้สินทั้งปวงด้วย ยกเว้นแต่หนี้สินที่เกี่ยวข้องกับภาษีอากร หรือหนี้สินที่เกิดขึ้นจากการทุจริต ฉ้อโกงของบุคคลล้มละลาย
สำหรับใครที่ผิดพลาด หรืออาจมีความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในเรื่องหนี้สินมาแล้ว ก็ควรหาวิธีในการเจรจาประนอมหนี้ ปัจจุบันมีวิธีการ และมีหลายหน่วยงานที่พร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือในการเจรจาประนอมหนี้ เช่น กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ที่มีช่องทาง และวิธีการไกล่เกลี่ยหนี้สินก่อนที่จะถูกฟ้องให้เป็น บุคคลล้มละลาย และหลังจากนี้ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญากู้ยืมเงินอะไรก็ตาม คิดให้ดีว่าเรามีความพร้อมทางการเงินไหม มีส่วนช่วยไม่ให้ตกเป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต และความเป็นอยู่อย่างมาก การบริหารจัดการหนี้สิน และทรัพย์สินที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปใช้หมุนเวียน ชำระหนี้สิน หรือนำเงินไปลงทุนสร้างรายได้ ช่วยให้การบริหารจัดการหนี้สินทำได้ง่ายขึ้น